วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559


บันทึกการเรียน ครั้งที่ 3

วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม 2559

knowledge

ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ แบ่งได้ 2กลุ่ม คือ


       1.เด็กปัญญาเลิศ
             เด็กปัญญาเลิศ (Gifted Child)
- เด็กที่มีความสามารถทางสติปัญญา
- มีความถนัดเฉพาะทางสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
- จดจำได้รวดเร็วและแม่นยำ
- เรียนรู้สิ่งต่างๆได้รวดเร็ว
- อยากรู้อยากเห็นชอบซักถาม

ตัวอย่างเด็กปัญญาเลิศ
 Kin Ung-Yong  เด็กเกาหลีใต้ IQ 213 

                   X-MEN มีจริง!! Kim Ung-Yong คนที่ฉลาดที่สุดในโลก เข้ามหาลัยฯตอน 4 ขวบ


Akrit Jaswal 
       เป็นชาวอินเดีย และได้รับการขนานนามว่า เป็นเด็กผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก เพราะ
มี IQ ถึง 146 และได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในเด็กที่มีอายุเท่า ๆ กัน



                      


เด็กอัจฉริยะเมืองไทย ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี ที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นคือความสามารถทางด้านศิลปะ ธนัช ได้ชื่อว่าเป็น จิตรกรวาดภาพสีน้ำในแนวนามธรรมที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก ที่สามารถจัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะเดี่ยว และสามารถจำหน่ายผลงานในขณะแสดงนิทรรศการได้จำนวนมาก ในวัยเพียง 3 ขวบครึ่ง





2.เด็กที่มีความบกพร่อง
          เด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง
-สติปัญญา
-การพูด
-ร่างกายและสุขภาพ
-การมองเห็น
-เด็กพิการซ้ำซ้อน
-เด็กออทิสติก
-การเรียนรู้
-การได้ยินและภาษา
-พฤติกรรมและอารมณ์

เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา  มี 2 กลุ่ม คือ
1. เด็กเรียนช้า มีระดับสติปัญญา (IQ) ประมาณ 71-90
2. เด็กปัญญาอ่อน  ระดับสติปัญญา (IQ) แบ่งได้ 4 กลุ่ม 
- เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนักมาก IQ ต่ำกว่า 20
- เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนัก IQ 20-34 เรียกกลุ่มนี้ว่า C.M.R
- เด็กปัญญาอ่อนปานกลาง IQ 35-49 เรียกกลุ่มนี้ว่า T.M.R
- เด็กปัญญาอ่อนขนาดน้อย IQ 50-70 เรียกกลุ่มนี้ว่า E.M.R

ลักษณะเด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา

ดาวน์ซินโดรม




เด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน
1. เด็กหูตึง จำแนกได้ 4 กลุ่ม  
- หูตึงระดับน้อย ได้ยินตั้งแต่ 26-40 dB
- หูตึงระดับปานกลาง ได้ยินตั้งแต่ 41-55 dB
- หูตึงระดับมาก ได้ยินตั้ง 56-70 dB
- หูตึงระดับรุนแรง ได้ยินตั้งแต่ 71-90 dB
2. หูหนวก  ระดับการได้ยินตั้งแต่ 91 dB ขึ้นไป 


                          

เด็กที่บกพร่องทางการมองเห็น

1. เด็กตาบอด  
มีสายตาข้างดีมองเห็นได้ในระยะ 6/60  20/200  ลงมาจนถึงบอดสนิท
มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดแคบกว่า 5 องศา

2.เด็กตาบอดไม่สนิท
เมื่อทดสอบสายตาข้างดีจะอยู่ในระดับ 6/18  20/60  6/60  20/200 หรือน้อยกว่านั้น
มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดกว้างไม่เกิน 30 องศา




                 


Evaluation

  Teacher :   ข้าสอนตรงเวลา อธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาได้อย่างครบถ้วนและคลอบคลุม

   Friends:   ข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่

  Self:   เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย มีการจดบันทึกทุกครั้งในการเรียน

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559


บันทึกการเรียนครั้งที่ 2

วันศุกร์ ที่ 22 มกราคม 2559

knowledge


เด็กที่มีความต้องการพิเศษ Children with special needs

เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ ( Early childhood with special needs )

ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
     
ทางการแพทย์
       เด็กที่มีความผิดปกติ มีความบกพร่อง สูญเสียสมรรถภาพ อาจเป็นความผิดปกติ ความบกพร่องทางกาย สูญเสียสมรรถภาพทางสติปัญญา ทางจิตใจ

ทางการศึกษา
       เด็กที่มีความต้องการพิเศษ หมายถึง เด็กที่มีความต้องการทางการศึกษาเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้แต่งต่างไปจากเด็กปกติทางด้านเนื้อหา หลักสูตร กระบวนการที่ใช้ และการประเมินผล

สรุปได้ว่าเด็กที่มีความต้องการิเศษ 
    1. เด็กที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการให้การช่วยเหลือ และการสอนตามกติ
    2. มีสาเหตุจากสภาพความบกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์
    3. จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น ช่วยเหลือ บำบัด และฟื้นฟู
    4. จัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับลักษณะและความต้องการของเด็กแต่ละบุคคล

พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

     พัฒนาการ 
-การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆ รวมทั้งตัวบุคคล
-ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

      เด็กที่มีความบกพ่องทางพัฒนาการ 
-เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน 
-พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้านหรือทุกด้าน 
-พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าตามไปด้วย


ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
     ปัจจัยด้านชีวภาพ
     ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด 
     ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด
     ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด

1. พันธุกรรม เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาตั้งแต่เกิดหรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่นานหลังเกิด มักมีลักษณะผิดปกติแต่กำเนิดร่วมด้วย เช่น โรคปากแหว่งเพดานโหว่ Cleft Lip / Cleft Palate 




โรคธาลัสซีเมีย 



ผิวเผือก Albinism



 ท้าวแสนปม Neurofibromatosis 



2. โรคของระบบประสาท 
-เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการส่วนใหญ่มักมีอาการ หรืออาการแสดงทางระบบประสาทร่วมด้วย ที่พบบ่อยคือ อาการชัก

3. การติดเชื้อ 
-การติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์น้ำหนักตัวแรกเกิดจะน้อยศีรษะเล็กกว่าปกติอาจมีตับม้ามโตการได้ยินบกพร่องเป็นต้อกระจก นอกจากนี้การติดเชื้อรุนแรงภายหลังเกิด เช่นสมองอักเสบเยื้อหุ้มสมองอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบได้บ้าง

4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม 
- โรคที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทย คือ ไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดต่ำ

5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด 
- การเกิดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย และภาวะขาดออกซิเจน

6. สารเคมี 
     ตะกั่ว เป็นสารที่มีผลกระทบต่อเด็กและมีการศึกษามากที่สุด พบในรอยเชื่อมกระทะ หม้อก๊วยเตี๋ยวสแตนเลส  อาการจะซึมเศร้า เคลื่อนไหวช้า ผิวหมองคล้ำเป็นจุดๆ ภาวะตับเป็นพิษ ระดับสติปัญญาต่ำ เป็นต้น
           
   แอลกอฮอล์ ส่งผลให้น้ำหนักแรกเกิดน้อย มีอัตราการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อย ศีรษะเล็ก พัฒนาการของสติปัญญามีความบกพร่อง เด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ โรคที่พบ คือ

     โรค Fetal Alcohol Syndrome, FAS เกิดจากแม่ดื่มเหล้าขณะตั้งครรภ์ 




-ช่องตาสั้น
-ร่องริมฝึปากบนเรียบ
-ริมฝีปากบนยาวและบาง
-หนังคลุมหัวตามาก 
-จมูกแบน
-ปลายจมูกเชิดขึ้น

      โรคนิโคติน 
-น้ำหนักแรกเกิดน้อย ขาดสารอาหารในระยะตั้งครรภ์
-เพิ่มอัตราการตายในวัยทารก
-สติปัญญาบกพร่อง
-สมาธิสั้น พฤติกรรมก้าวร้าว มีปัญหสด้านการเข้าสังคม

7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งการขาดสารอาหาร 

8. สาเหตุอื่นๆ เช่น อุบัติเหตุ

                    อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒาการ มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจพบมากกว่า 1 ด้าน และปฏิกิริยาสะท้อน ( primitive reflex ) ไม่หายไปแม้จะถึงช่วยอายุที่ควรหายไป คือก่อน 1 ขวบ

แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

1. การซักประวัติ

    1.1 โรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรม
    1.2 การเจ็บป่วยในครอบครัว
    1.4 ประวัติฝากครรภ์
    1.5 ประวัติเกี่ยวกับการคลอด
    1.6 พัฒนาการที่ผ่านมา
    1.7 การเล่นตามวัย การช่วยเหลือตนเอง
    1.8 ปัญหาพฤติกรรม
    1.9 ประวัติอื่นๆ
   เมื่อซักประวัติแล้วจะสามารถบอกได้ว่า
  • ลักษณนะพัฒนาการล่าช้าเป็นแบบคงที่ หรือถดถอย
  • เด็กมีระดับพัฒนาการช้าหรือไม่ อย่างไร อยู่ในระดับไหน
  • มีช้อบ่งชี้ว่ามีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
  • สาเหตุของความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร
  • ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างไร
2. การตรวจร่างกาย
2.1 ตรวจร่างกายทั่วๆ ไปและเจริญเติบโต
2.2 ภาวะตับม้ามโต
2.3 ผิวหนัง
2.4 ระบบประสาทแะวัดรอบศีรษะด้วยเสมอ
2.5 ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม (child abuse)
2.6 ระบบการองเห็นและการได้ยิน

3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ

4. การประเมินพัฒนาการ
แบบไม่เป็นทางการ
     การประเมินที่ใช้ในเวชปฏิบัติ
-แบบทดสอบ Denver ll
-Gesell Drawing Test
-แบบประเมินพัฒนาการเด็ตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็ก อายุแรกเกิด - 5 ปี สถาบันราชานุกูล

skill 
Game เพื่อรูปร่างที่สวยงาม



แบบทดสอบวัดระดับสติปัญญาของตัวเอง



Evaluation


  Teacher :   เข้าสอนตรงเวลา อธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาได้อย่างครบถ้วนและคลอบคลุม

   Friends:   เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่

  Self:   เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย มีการจดบันทึกทุกครั้งในการเรียน












วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559



บันทึกการเรียน ครั้งที่ 1

วันศุกร์ ที่ 15 มกราคม 2559

knowledge


-ปฐมนิเทศเกี่ยวกับการเรียนการสอน
-เนื้อหาที่จะเรียนในเทอมนี้
-Pre Test





Apply

       ได้ทราบถึงทักษะและความรู้เกี่ยวกับเด็กพิเศษ เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปใช้เวลาฝึกสอน และ ใช้ในชีวิตประจำวัน


Evaluation

  Teacher :   ข้าสอนตรงเวลา อธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาได้อย่างครบถ้วนและคลอบคลุม

   Friends:   ข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่

  Self:   เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย มีการจดบันทึกทุกครั้งในการเรียน